เครื่อง Excimer 308 ช่วยรักษาโรคด่างขาวได้อย่างไร วันนี้มีคำตอบ
May 13, 2021โรคด่างขาว คืออะไร ทำไมต้องเข้ารับการรักษา
สำหรับผู้ที่มีสีผิวที่ไม่สม่ำเสมอกัน หรือมีดวงสีขาว ๆ สามารถเป็นได้หลายโรค อาทิ โรคด่างขาว โรคเรื้อน เกลื้อนน้ำนม ฯลฯ หรือบางคนอาจจะมีผลข้างเคียงจากการฉีดยาหรือทายาบางชนิด ดังนั้นหากใครที่มีปัญหาเหล่านี้ ควรที่เข้าพบแพทย์เพื่อขอคำแนะนำและได้รับการวินิจฉัยโรคที่ถูกต้องก่อนการรักษา
แต่ในส่วนของวันนี้เราจะทุกคนไปทำความรู้จักกับ ‘โรคด่างขาว’ ที่ถึงแม้ว่าจะไม่ใช่โรคอันตราย แต่ก็ยังคงเป็นโรคที่ต้องได้รับการรักษาเช่นเดียวกันกับโรคอื่น ๆ โดยวิธีสังเกตโรคด่างขาว คือที่บริเวณที่เป็นดวงจะมีวงค่อนข้างกว้าง มีขอบเขตของวงที่สามารถมองเห็นได้ชัดเจน

เครื่อง Excimer 308 ช่วยรักษาโรคด่างขาวได้อย่างไร วันนี้มีคำตอบ
สาเหตุของการเกิดโรคด่างขาว
เป็นโรคที่ร่างกายได้สร้างสารไปทำลายเซลล์ Melanocyte ที่เป็นเซลล์สำหรับสร้างเม็ดเลือดสีที่มีชื่อว่า Melanocyte ถูกทำลาย จึงเป็นเหตุให้ผิวมีสีที่ไม่สม่ำเสมอกัน โดยโรคนี้จะเป็นโรคที่ถ่ายทอดกันทางกรรมพันธุ์ ไม่สามารถติดต่อจากคนสู่คนผ่านการสัมผัสผิวหนังที่เป็นด่างขาวได้ ดังนั้นคนที่เป็นโรคนี้จึงสามารถใช้ชีวิตร่วมกันกับคนอื่น ๆ ได้นั่นเองค่ะ
ซึ่งจากการสันนิษฐานพบว่าผู้ที่ป่วยเป็นโรคด่างขาวจะมีความเกี่ยวข้องกับกรรมพันธุ์ หรือโรคภูมิแพ้ ดังนั้นจึงมีความเป็นไปได้ว่าโรคด่างขาวจะไม่สามารถรักษาให้หายขาด และยังสามารถกลับมาเป็นซ้ำได้อีก แต่โดยปกติแล้วใน 50% จะสามารถรักษาหายได้ในระยะยาว แต่หากเป็นซ้ำอีกครั้งก็จะต้องกลับมาปรึกษาแพทย์และเข้ารับการรักษาใหม่ทั้งหมด
เครื่อง Excimer 308 เกี่ยวข้องอย่างไรกับการรักษาโรคด่างขาว
ในส่วนของการรักษาโรคนี้ หากเป็นผู้ป่วยในระยะแรกจะเริ่มต้นด้วยการทายา ต่อมาคือการฉายแสง หรืออาจจะเป็นแบบผสมผสาน คือ ทานยาด้วยฉายแสงด้วย แต่ในปัจจุบันได้มีการผลิตเครื่องมือฉายแสงที่เรียกว่า Excimer 308 ขึ้นมา เป็นการฉายแสงด้วยพระอาทิตย์เทียมด้วยรังสีอัลตร้าไวโอเลตบี และสาเหตุที่ต้องเป็นคลื่นความถี่ที่ 308 เป็นเพราะผลการรักษาบริเวณที่เป็นค่อนข้างดี ไม่ส่งผลเสียต่อบริเวณผิวหนังที่เป็นปกติ มีผลข้างเคียงน้อย อีกทั้งยังสามารถสร้างภูมิคุ้มกัน และรักษาโรคทางผิวหนังอื่น ๆ ได้อีกด้วย

เครื่อง Excimer 308 ช่วยรักษาโรคด่างขาวได้อย่างไร วันนี้มีคำตอบ
สำหรับการรักษาด้วยเครื่อง Excimer 308 แพทย์จะต้องทำการตรวจสอบดูก่อนว่าบริเวณที่เป็นรอยโรคนั้นกว้างมากขนาดไหน แรก ๆ อาจจะต้องเข้ารับการฉายแสง 2 – 3 ครั้ง/สัปดาห์ แต่เมื่ออาการเริ่มดีขึ้นก็จะมีการเว้นระยะห่างในการฉายแสงตามอาการของผู้ป่วย เมื่อผู้ป่วยได้รับการฉายแสงแล้วผู้ป่วยสามารถทาครีมกันแดด และใช้ชีวิตได้ตามปกติ แต่ควรหลีกเลี่ยงการเกาตรงบริเวณรอยวง รักษาสุขอนามัยของตัวเอง รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ พักผ่อนให้เพียงพอ ไม่เครียด ที่สำคัญควรหลีกเลี่ยงการโดนแสงแดดจะดีที่สุด
ซึ่งถึงแม้ว่าโรคนี้จะไม่ใช่โรคร้ายแรง แต่มันกลับส่งผลเสียในด้านของความงามและความมั่นใจ หากไม่ต้องการเข้ารับการรักษาก็จำเป็นจะต้องหมั่นทาครีมกันแดดที่บริเวณนั้น หลีกเลี่ยงการโดนแสงจัด ๆ เพราะอาจเสี่ยงต่อการเป็นโรคมะเร็งผิวหนังได้
ข้อมูล : โรงพยาบาลพญาไท